ตอนที่ 2 ทำไมต้อง NetBeans ?
ในการสร้างโปรแกรมแต่ละโปรแกรมขึ้นมานั้น สิ่งที่อำนวยความสะดวกของเราก็คือ เครื่องมือที่ช่วยในการเขียนโปรแกรม เช่น Editplus เป็นต้น เพื่อนๆหลายคนน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้วสำหรับ Editplus และหลายๆคนก็คงจะบอกว่า ใช้ Editplus ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้อง เปลี่ยนมาใช้ NetBeans ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ผมจึงใคร่ขอเสนอ เบสิคเบื้องต้นในการใช้ เจ้า Mr. Bean เอ้ย NetBeans ครับ เพื่อที่จะให้เพื่อนๆได้ทำการรู้จักกับมัน และหันมา นอกใจ IDE ตัวเก่าที่เพื่อนๆใช้อยู่ แล้ว “ เปลี่ยนใจมาใช้ Netbean ตัวนี้ (ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียจากทาง NetBeans แม้แต่น้อย TT_TT) “
เเต่ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องมีเจ้าถั่วต้ม หรือ NetBeans ก่อนนะครับ โดยสามารถไปดาวน์โหลดได้ฟรีที่ http://netbeans.org เเละก็อย่าลืมดาวน์โหลดตัว JDK มาก่อนนะครับเพราะเราจะเริ่มต้นการใช้งานด้วยภาษา Java กัน สำหรับตัว JDK สามารถโหลดได้ที่เว็บนี้เลยครับ http://www.oracle.com/technetwork/java/javase/downloads/index.html จากนั้น เพื่อนๆก็ทำการ install ตัว JDK ได้เลย และเมื่อเพื่อนๆได้ทำการติดตั้งตัว JDK เรียบร้อยแล้วจากนั้น มาเริ่มติดตั้งตัว NetBeans IDE กันเลยดีกว่าครับ
ในการสร้างโปรแกรมแต่ละโปรแกรมขึ้นมานั้น สิ่งที่อำนวยความสะดวกของเราก็คือ เครื่องมือที่ช่วยในการเขียนโปรแกรม เช่น Editplus เป็นต้น เพื่อนๆหลายคนน่าจะเคยใช้กันมาบ้างแล้วสำหรับ Editplus และหลายๆคนก็คงจะบอกว่า ใช้ Editplus ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้อง เปลี่ยนมาใช้ NetBeans ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ผมจึงใคร่ขอเสนอ เบสิคเบื้องต้นในการใช้ เจ้า Mr. Bean เอ้ย NetBeans ครับ เพื่อที่จะให้เพื่อนๆได้ทำการรู้จักกับมัน และหันมา นอกใจ IDE ตัวเก่าที่เพื่อนๆใช้อยู่ แล้ว “ เปลี่ยนใจมาใช้ Netbean ตัวนี้ (ผู้เขียนไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียจากทาง NetBeans แม้แต่น้อย TT_TT) “
เเต่ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องมีเจ้าถั่วต้ม หรือ NetBeans ก่อนนะครับ โดยสามารถไปดาวน์โหลดได้ฟรีที่ http://netbeans.org เเละก็อย่าลืมดาวน์โหลดตัว JDK มาก่อนนะครับเพราะเราจะเริ่มต้นการใช้งานด้วยภาษา Java กัน สำหรับตัว JDK สามารถโหลดได้ที่เว็บนี้เลยครับ http://www.oracle.com/technetwork/java/javase/downloads/index.html จากนั้น เพื่อนๆก็ทำการ install ตัว JDK ได้เลย และเมื่อเพื่อนๆได้ทำการติดตั้งตัว JDK เรียบร้อยแล้วจากนั้น มาเริ่มติดตั้งตัว NetBeans IDE กันเลยดีกว่าครับ
เมื่อทำการดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยก็จะสามารถทำการติดตั้งได้เลยแค่ดับเบิลคลิกติดตั้งเหมือนกับโปรแกรมธรรมดาทั่วไป ก็จะสามารถติดตั้งตัว IDE นี้ได้เรียบร้อยแล้วล่ะครับ แล้วเมื่อทำการติดตั้งเสร็จก็จะได้ไอคอนสำหรับการใช้งานโปรแกรมขึ้นตรงหน้า Desktop เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมสี่เงิน ดังรูปข้างล่างแบบนั้นเลยครับ
เริ่มต้นใช้งานก็แค่ง่าย คือ ดับเบิลคลิกอีกแล้วครับตามสไตล์ Windows อีกเช่นเคย โดยหน้าตาตัว start โปรแกรมก็จะเป็นดังรูปครับ หรูหราไม่ใช่น้อย
เมื่อ NetBeans ทำการโหลดทรัพยากรของมันเรียบร้อยพร้อมใช้งาน มันก็จะแสดงหน้าตาหล่อๆขึ้นมาแล้วครับ สำหรับหน้าต่างโปรแกมของ NetBeans IDE จะเป็นหน้าต่างที่เราคุ้นเคยถ้าใครได้เคยใช้ Editplus มาแล้ว หน้าตาโปรแกรมก็จะมีการจัดส่วนประกอบที่คล้ายๆกัน แต่ว่าตัว NetBeans จะมีเครื่องมือต่างๆมากกว่า แล้วยังมี Plugins ที่สามารถดาวน์โหลดเพิ่มได้เพื่อตอบสนองต่อการใช้งานและพัฒนาของแต่ละบุคคล ณ จุดนี้ทำให้เจ้า NetBeans น่าจะสะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก กด Like ให้เลยครับ
ตัว NetBeans นี้จะเริ่มต้นกับผู้ใช้โดยจะแสดงหน้าต่าง Start Page มาให้ ซึ่งหน้าต่างนี้แหละที่เป็นสิ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว โดย Start Page นี้จะมีเมนูหลักๆอยู่ 3 อัน ซึ่งได้แก่ Learn & Discover, My NetBeans และ What’s New เอาล่ะ เรามาเริ่มต้นด้วยเมนูแรกกันดีกว่า
Learn & Discover
จะเป็นตัวที่ทำให้ผู้เริ่มต้นใช้งานได้ทำความรู้จักกับเจ้า NetBeans ได้ดีเลยที่เดียว เพราะว่า มันจะประกอบไปด้วยการสอนในรูปแบบและการสร้างโปรเจคในภาษาต่างๆ รวมถึงตัวอย่างโปรเจคให้ด้วย ไม่เพียงเท่านี้ มันยังสมามารถเชื่อมต่อไปยังสมาคมออนไลน์ของผู้ใช้ NetBeans ได้อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สนุกกับเจ้า NetBeans ตั้งแต่เริ่มใช้มันเลยทีเดียว แค่นี้ยังไม่หมด เรามาดูเมนูต่อไปกันเลยดีกว่าครับ
ตัวนี้แหละที่ผมคิดว่ามันเป็นหัวใจหลักในการใช้เจ้าตัว NetBeans เลยก็ว่าได้(สำหรับผมนะ -*-) เพราะว่าไม่เพียงแค่มันจะแสดงโปรเจคที่เราพึ่งทำไปสดๆแล้ว ยังเป็นเมนูที่สะดวกต่อการเพิ่มความสามารถให้กับเจ้า IDE ตัวโปรดนี้ด้วย ทั้ง Plugins และ Features เพิ่มเติมให้เลือกใช้ เอาเป็นว่าสะดวกได้อีก
เรามาดูหน้าตาการเพิ่ม Plugins กันเลยดีกว่าครับ
รายการ Plugins นี้ยาวมากเลยครับ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะลงอันไหน แต่ก็ว่าแหละครับ มันเป็นตัวช่วยของผู้ใช้ว่าผู้ใช้จะเลือกเพิ่มอันไหนก็เลือกตามสบาย ตามสไตล์การพัฒนานั่นแหละครับ การเพิ่มก็ง่ายๆ ติ๊กตรงช่องด้านหน้า แล้วกด install ส่วนการเพิ่ม Features ตามไปดูเลยครับ
โดย Features ก็เป็นรูปแบบที่เราต้องการพัฒนานั่นเอง โดยสังเกตุวงกลมสีเขียวๆนั้นจะหมายถึงเจ้าตัว NetBeans นี้ได้มีความสามารถนั้นอยู่แล้วครับ ส่วนที่เป็นสีเทาแสดงว่ายังไม่ทำให้มันทำงานได้ โดยการเพิ่มนั้นทำได้ง่ายๆ โดยติ๊กที่ช่องด้านหน้าตัวที่ต้องการแล้วก็เลือกว่า จะ Activate สั่งให้ใช้งานได้ หรือจะ Deactivate ให้ยกเลิกใช้งาน หรือไม่ก็ Uninstall ถอนการติดตั้งตัวที่ไม่ต้องการใช้ออกไปเลยครับ ง่ายใช่ไหมล่ะครับ ต่อไปตามไปดูเมนูหลักสุดท้ายกันครับ
What’s New
ถ้าว่ากันไปแล้วตัว Learn & Discover จัดว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยก็ว่าได้ My Beans คือ อาหารจานหลัก ส่วน What’s New นี้ก็คงต้องเป็นของหวานตบท้ายครับ เพราะว่ามันคือเมนูเอาไว้หาข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งข่าวสารการอัพเดทต่างๆ แม้กระทั่งข้อมูลจาก Blogs ของผู้ใช้ NetBeans อีกด้วย เรียกได้ว่า เจ๋งจริงๆครับ
เป็นยังไงบ้างล่ะครับ สนใจจะเปลี่ยนมาใช้เจ้า NetBeans IDE บ้างหรือยัง สำหรับเจ้าตัว IDE ตัวนี้ ถือว่าเป็นอาวุธสุดเทพและยังมีเป็นคัมภีร์ที่สุดยอดสำหรับผู้เริ่มต้นการพัฒนาโปรแกรม ไม่ว่าจะเคยใช้ หรือไม่เคยใช้ เมื่อเปิดตัวนี้ขึ้นมาแล้วก็เรียกได้ว่าต้องใช้เป็นได้แน่นอนครับ ไม่ช้าก็เร็ว...
สำหรับ ตอนที่ 2 นี้
ทาง Component Rap_Jung Group ขอจบไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าครับ
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น